วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2560

อะไรคือความเสี่ยง ของครอบครัวคนในเขตเมือง

 ประเทศไทยนับว่ามีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยไม่มีแนวโน้มหยุดนิ่งหรือชะลอตัว เมื่อ เศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้า คือการตามมาของการขยายตัวความเป็นชุมชนเมือง  จากการศึกษาพบว่ามีความเสี่ยงของครอบครัวในเขตเมือง 6 ด้าน คือ 

ด้านบทบาทหน้าที่  พบว่ามีความไม่รู้และไม่เข้าใจหน้าที่ของตนเอง  เช่น ไม่แน่ใจว่าจะดูแลสมาชิกในครอบครัวได้ถูกต้องและเหมาะสม  ไม่มีการวางเป้าหมายของครอบครัว  วางเป้าหมายเพียงเรื่องการทำมาหากิน แต่ไม่มีการวางเป้าหมายชีวิตและการดูแลกัน   ไม่รู้บทบาทครอบครัวของตนเอง
ด้านสัมพันธภาพ พบภาวะ  ต่างคนต่างอยู่สะท้อนให้เห็นว่ามีการช่วยเหลือกันน้อยลงจนถึงขั้นไม่ช่วยเหลือกันเลย  ไม่มีที่ระบายหรือปรึกษาเรื่องครอบครัว  ไม่เล่าเรื่องที่ตนเองพบอยู่ให้ครอบครัวฟัง ครอบครัวไม่ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา  ด่าทอหยาบคาย ทำร้ายร่างกายและละเลยทอดทิ้ง ทำร้ายร่างกายตนเองและสมาชิกในครอบครัว   สิ่งที่ต้องการคือ ถ้ามีศูนย์หรือพื้นที่ที่เข้าใจให้คำปรึกษา สัมพันธภาพในครอบครัวน่าจะดีขึ้น 
ด้านการจัดการเวลา  พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว  สะท้อนว่าไม่มีเวลา ซึ่งส่งผลต่อสัมพันธภาพให้เห็นได้อย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่บอกว่าเวลากินข้าวเป็นช่วงที่จะได้พบหน้ากันมากที่สุด 
ด้านการเงิน พบว่าส่วนใหญ่รู้เรื่องการบริหารจัดการเงินปานกลางถึงน้อยมาก   รายรับน้อยกว่าหรือเท่ากับรายจ่าย  ไม่มีการออมเงิน  ในส่วนผู้ที่ออมเงินไม่มั่นใจว่าเงินออมจะเพียงพอ  และคิดว่าเงินออมไม่พอแน่นอนหากเกิดวิกฤติ   ส่วนมากมีหนี้สินเรื่องการใช้จ่าย  ไม่มั่นใจว่าจะใช้หนี้หมด  และส่วนน้อยยืนยันว่าใช้หนี้ไม่หมดแน่นอน   มีบางส่วนทำบัญชีรายรับรายจ่าย แต่ไม่ค่อยเห็นประโยชน์  สิ่งที่ต้องการคือการเรียนรู้การบริหารจัดการเงินของตนเองให้มีประสิทธิภาพ  เพราะปัจจุบันมีพลวัตของการเงินที่รวดเร็ว 
ด้านสุขภาวะของคนเมือง  พบว่าส่วนใหญ่ใส่ใจตนเอง  ระวังยาเสพติด แต่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่  เล่นการพนันและเสี่ยงโชคทุกรูปแบบ  บางส่วนติดสารเสพติดอื่นๆ   จัดการความเครียดได้น้อยมากและไม่ได้เลย  มีปัญหาสุขภาพจิตในชุมชนของตนเอง 
ด้านการดูแลผู้สูงอายุ พบว่าส่วนใหญ่ดูแลผู้สูงอายุได้เหมาะสม เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในครอบครัว  แต่มีความกังวลว่าผู้สูงอายุจะเหงาเพราะไม่มีเวลาดูแล บางส่วนไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุ และกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ  ส่วนน้อยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวันของผู้สูงอายุ


ที่มา  โครงการศึกษาครอบครัวไทยที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ปี 2557 , สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย, สภาพัฒน์ และ สถาบันอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) , สืบค้นเมื่อ 4 ตุลาคม 2560
ผู้เรียบเรียง : ภก.เชิดเกียรติ  แกล้วกสิกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น