วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บทความวิชาการ ตอน ฝนมา อากาศเปลี่ยน คนเมืองเสี่ยงป่วยง่าย 5 กลุ่มโรค ควรปฏิบัติตัวอย่างไรดี ?



                      ในขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน  สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและมักมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นช่วง ๆ อาจทำให้เกิดภาวะน้ำขังหรือถึงกับท่วมฉับพลันได้ตามจังหวัดต่างๆ จากสภาพดินฟ้าอากาศเช่นนี้ หากประชาชนดูแลรักษาอนามัยไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้อ่อนแอ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว




ผลกระทบ

       โรคที่จะเกิดในฤดูฝน สามารถแบ่งได้เป็น 5 กลุ่มโรค ดังนี้ 
1) โรคที่เกิดจากแมลงพาหะ เช่น โรคไข้เลือดออก  โรคมาลาเรีย  โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี
2) โรคอาหารเป็นพิษจากเห็ดพิษ ที่ขึ้นเองในป่า สวน ไร่ หรือเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือพืชที่มีพิษต่างๆ เช่น ผักหวานพิษ  ที่มักมีรายงานผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นประจำทุกปีช่วงหน้าฝน
3) โรคติดต่อทางเดินหายใจและการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ที่พบบ่อย เช่น โรคหวัดหวัดใหญ่  โรคคออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม โรคมือ เท้า ปาก ในเด็ก
4) โรคที่เกิดจากการสัมผัสเชื้อจากสิ่งแวดล้อมและสัตว์พาหะ เช่น โรคเลปโตสไปโรซิส  หรือโรคไข้ฉี่หนู ที่เชื้อปะปนอยู่ในน้ำและสิ่งแวดล้อม ดิน โคลน แอ่งน้ำ ร่องน้ำ น้ำตก ที่ชื่นแฉะมีน้ำท่วมขัง
5) โรคหรือภัยที่มักเกิดร่วมกับภาวะอุทกภัย เช่น  โรคทางอาหารโดยเฉพาะในช่วงที่มีน้ำท่วม ได้แก่ โรคท้องเดินหรือโรคอุจาระร่วง โรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบ เป็นต้น  โรคตาแดง ที่ติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิด ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน หรือจากการใช้น้ำที่ไม่สะอาด  โรคน้ำกัดเท้า เกิดจากเชื้อรา ที่ต้องลุยอยู่ในน้ำสกปรกนาน ๆ  อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งหนีมาหลบอาศัยในบริเวณบ้านช่วงที่มีน้ำท่วม  อันตรายจากการจมน้ำ และไฟฟ้าดูดขณะร่างกายเปียกน้ำ




คำแนะนำประชาชน และบทสรุปเพื่ออนาคต

     วิธีการป้องกันโรคดังกล่าวข้างต้น ดังนี้
1) อย่าให้ถูกยุงกัด โดยการ เก็บ ฝัง ทำลาย หรือปิดให้มิดชิด พร้อมกันทุกบ้าน ทุก 7 วัน ตัดจงจรการขยายพันธุ์ยุง
2) ถ้าเดินทางไปพักค้างแรมในป่า ต้องป้องกันตนเองให้ถูกยุงกัด เมื่อมีอาการไข้ภายหลังจากไปป่า บอกประวัติให้สถานพยาบาลทราบ เพื่อตรวจเลือดหาเชื้อมาลาเรียโดยเร็วที่สุด
3) รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ เช่น การออกกำลังกายพอเหมาะ เพื่อให้ร่างกายมีความต้านทานโรค 
4) หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ หากมีไข้ไม่สูง หรือรู้สึกไม่สบาย ควรเช็คตัวลดไข้เป็นระยะ รับประทานยาลดไข้ และหากภายใน 2 วัน ไข้ไม่ลดหรืออาหารทรุดลงให้รีบพาผู้ป่วยไปสถานพยาบาลใกล้บ้าน 
5) รับการฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือตามประกาศของทางราชการ
6) สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล หมั่นดูแลสุขอนามัยของสถานที่ และอุปกรณ์ให้สะอาดอยู่เสมอ
7) รับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ๆ ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำที่สะอาดทุกครั้ง  เช่น น้ำที่ต้มสุกแล้ว  หรือน้ำบรรจุขวดที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ และไม่ควรรับประทานน้ำแข็งที่ใช้แช่อาหารอื่น 
8) ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง   
9) อย่าใช้มือ แขน หรือ ผ้าที่สกปรกขยี้ตา หรือเช็ดตา และรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งที่ถูกน้ำสกปรก
12) หากเจ็บป่วย หรือ มีบาดแผล ให้รีบไปตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ตั้งแต่เริ่ม ก่อนที่อาการจะลุกลามและเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น
13) ระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการถูกของมีคมและสัตว์มีพิษกัดต่อย  โดยการจัดและดูและบ้านเรือนให้สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษหรือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงพาหะได้

กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือสะอาด สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม  ป้องกันโรคจากฤดูฝนได้


ผู้เรียบเรียง...เภสัชกรเชิดเกียรติ  แกล้วกสิกิจ