เนื่องจากโรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ และไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ครบทุกสายพันธุ์ ยุงลายตัวเมียที่เป็นพาหะของโรคไข้เลือดออกเพียง 1 ตัว จะสามารถวางไข่ได้ครั้งละ 50-150 ฟอง
ในช่วงชีวิต 60 วันของยุงตัวเมียหนึ่งตัว จึงวางไข้ได้บ่อยราว 4-6 ครั้ง ตลอดชีวิตของยุงลายตัวเมียจึงมีลูกได้ดกมากถึงราว
500 ตัว
จากข้อมูลการศึกษาวิจัย พบว่า ยุงมักจะชอบกัดคน 6 ประเภทด้วยกัน ดังนี้คือ
1. ยุงชอบกัดเด็กมากกว่าผู้ใหญ่เพราะกลิ่นและลักษณะผิวหนัง
2. ยุงชอบกัดผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะฮอร์โมนแตกต่างกัน
3. ยุงชอบกัดคนที่หายใจแรงเพราะคาร์บอนไดออกไซด์จากลมหายใจจะเป็นตัวดึงดูดยุง
4. ยุงชอบกัดคนที่ตัวร้อนเพราะอุณหภูมิบริเวณผิวหนังจะสูง
5. ยุงชอบกัดคนที่มีเหงื่อออกมาก
6. ยุงชอบกัดคนที่ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม
แต่ทุกคนก็มีโอกาสโดนยุงกัดได้หมด ควรระวังและป้องกันตัวไม่ให้ถูกยุงกัดจะดีที่สุด หากสงสัยบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ไข้สูงลอยนานเกิน 2 วัน ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึม เบื่ออาหาร หน้าแดง คอแดง ปวดศีรษะหรือปวดกระบอกตา อาจพบจุดเลือด ที่ผิวหนัง กดเจ็บชายโครงด้านขวา มักไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ให้สงสัยเป็นไข้เลือดออก และรีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ให้ระลึกเสมอว่าฤดูฝนนี้เป็นช่วงของการระบาดของโรคไข้เลือดออก อย่านิ่งนอนใจ
ดังนั้นการป้องกันโรคนี้ โดยการตัดตอนวงจรชีวิตของยุงจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยการป้องกันไม่ให้ยุงวางไข่ได้ หรือไข่แล้วก็ไม่ให้กลายเป็นยุง เน้นที่การควบคุมลูกน้ำด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำ เนื่องจากสามารถทำลาย ได้ง่ายและไม่สิ้นเปลือง
คำแนะนำการป้องกันไม่ให้ยุงกัด คือ การใช้ผลิตภัณฑ์ฉีดไล่ยุง
เครื่องไล่ยุงไฟฟ้า ใช้ยาจุดกันยุง ยาทากันยุงกัด
หรือใช้กลิ่นของสมุนไพรไล่ยุง เช่น ตะไคร้หอม เป็นต้น การนอนในมุ้ง ติดมุ้งลวด
หรือเปิดพัดลมไล่ยุง
ส่วนกลยุทธ์การปฏิบัติเมื่อมีคนในบ้านหรือข้างบ้านเป็นไข้เลือดออก
คือ
ควรจะบอกคนในบ้านหรือข้างบ้านว่ามีไข้เลือดออก ให้สมาชิกในครอบครัว ป้องกันการถูกยุงกัดตามคำแนะนำ เนื่องจากไข้เลือดออกระบาดโดยมียุงลายเป็นพาหะแพร่เชื้อ
เพื่อให้คนในชุมชนเตรียมการป้องกันตนเองและคนในบ้าน แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อมาดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที
สำรวจภายในบ้าน รอบบ้าน รวมทั้งเพื่อนบ้านว่ามีแหล่งแพร่พันธุ์ยุงหรือไม่
หากมีให้จัดการเสีย เฝ้าดูอาการของสมาชิกในบ้านหรือข้างบ้านว่ามีไข้หรือไม่
หากมีไข้ให้ระวังว่าอาจจะเป็น ไข้เลือดออก ให้ผู้ป่วยนอนในมุ้งเพื่อป้องกันยุงกัด
ที่มา : 1. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข
2. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 พิษณุโลก
ผู้เรียบเรียง : ภก.เชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น